ร้อนนี้ต้องระวัง
หน้าร้อนกำลังมาเยือน แถมชวนเพื่อนที่ไม่เป็นมิตร ที่ชื่อว่า"โรคภัย" มาด้วย เป็นเหตุให้ต้องใส่ใจดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เนื่องจากสภาพร่างกายที่ไม่ค่อยแข็งแรงและความเสื่อมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
ทั้งนี้โรคที่พบได้บ่อยในช่วงหน้าร้อนที่ผู้สูงอายุต้องระวังคือ โรคลมแดดหรือฮีทสโตรก (Heat Stroke) โรคอาหารเป็นพิษและโรคผิวหนังที่เกิดจากการสัมผัสแดดนาน
เพื่อไม่ให้โรคดังกล่าวมาบั่นทอนสุขภาพผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุควรทำความรู้จักและเรียนรู้วิธีป้องกันโรคดังกล่าว ดังนี้
+โรคลมแดดหรือฮีตสโตรก (Heat Stroke)
เกิดจากร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป ทั้งความร้อนจากภายนอกและภายในร่างกายที่สร้างขึ้นเอง โดยร่างกายไม่สามารถขับความร้อนออกมาได้ ทำให้เกิดการสะสมอยู่ในร่างกาย ส่วนใหญ่โรคลมแดดมักมาคู่กันกับภาวะขาดน้ำ
ซึ่งผู้สูงอายุจะมีอาการปวดศีรษะ มึนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลียไม่มีแรง เป็นตะคริวและมีไข้ แต่ต่ำกว่า 40 องศาเซลเซียส ผิวแห้งไม่มีเหงื่อ หอบ หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว อีกทั้งยังมีอาการทางสมองเช่น เห็นภาพหลอน ชักหรือหมดสติ
++การป้องกัน
หลีกเลี่ยงการออกกำลังอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานานในช่วงที่อากาศร้อนจัด สวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่ง ระบายอากาศดี สีอ่อน สวมหมวกหรือถือร่มกันแดด นอกจากนี้ผู้สูงอายุควรดื่มน้ำให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ ชา กาแฟ อีกทั้งผู้สูงอายุที่มีโรคหรือรับประทานยาที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะนี้ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ๆ ร้อนจัดเป็นเวลานาน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ป่วยเป็น โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เบาหวาน ต้องระมัดระวังและใส่ใจสุขภาพมากเป็นพิเศษ
+โรคอาหารเป็นพิษ
อาหารเป็นพิษ (Food Poisoning) เป็นอาการที่เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำดื่มที่มีการปนเปื้อน ผู้สูงอายุจะมีอาการปวดท้องแบบบิดเกร็งเป็นพัก ๆ เนื่องจากการบีบตัวของลำไส้ รู้สึกพะอืดพะอม คลื่นไส้ อาเจียนติดต่อกันหลายครั้ง หรืออาเจียนเป็นเลือด อาการถ่ายท้อง ถ่ายมีมูกหรือเลือดปน นอกจากนี้ยังมีอาการรู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ หมดเรี่ยวแรง ปากแห้ง ตาโบ๋ กระหายน้ำบ่อย ปัสสาวะน้อย เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำ
++การป้องกัน
หลังสัมผัสสิ่งสกปรกหรือเชื้อโรคจากสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เช่น จับราวบันได กดปุ่มกดลิฟต์ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคต่าง ๆ ผู้สูงอายุควรล้างมือก่อนและหลังรับประทานให้เป็นนิสัย เพื่อช่วยป้องกันการกระจายของเชื้อโรคมาสู่ตนเอง
ผู้สูงอายุควรเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุก สดใหม่ ซึ่งช่วยฆ่าเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในอาหาร หากรับประทานอาหารไม่หมด ควรนำอาหารเก็บเข้าตู้เย็น ไม่ควรวางอาหารทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง เพราะอาจทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ หากต้องรับประทานอาหารนอกบ้านควรเลือกร้านอาหารที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ
+โรคผิวหนังแสบ แดง เป็นผื่น
เกิดจากการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานๆ โดยปราศจากสิ่งป้องกัน ส่งผลให้ผิวหนังของผู้สูงอายุเกิดอาการไหม้ เกรียม แสบ และแดงเป็นผื่นได้
++การป้องกัน
ผู้สูงอายุควรดื่มน้ำให้มากกว่าปกติ เพื่อสร้างความชุ่มชื่นให้แก่ผิวพรรณ และควรทาครีมกันแดดที่มีค่าป้องกันรังสียูวีมากกว่า 50 PA+++ ทาลงบนผิวหน้าและผิวกายก่อนออกแดดประมาณ 20 นาที และควรทาซ้ำทุก 2- 4 ชั่วโมง เพื่อ
ปกป้องผิวหนังจากแสงแดด
นอกจากนี้ผู้สูงอายุหรือคนใกล้ชิดควรดูแลระบบถ่ายเทอากาศภายในบ้านให้เหมาะสม อีกทั้งไม่ควรปล่อยให้ตนเองรู้สึกกระหายน้ำเป็นเวลานาน ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการร่างกาย สิ่งสำคัญคือต้องรู้เท่าทันภาวะอารมณ์ของตนเองเพราะอากาศร้อนจะเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้สูงอายุหงุดหงิดง่าย ส่งผลให้เกิดความเครียด ดังนั้นผู้สูงอายุควรทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ เพียงเท่านี้ผู้สูงวัยก็สามารถรับมือกับโรคภัยต่างๆ ที่แฝงตัวมาในช่วงหน้าร้อนได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณแหล่งข้อมูล
pr.moph.go.th/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=95247
#อาวุโสโซไซตี้ #เพื่อนที่รู้ใจของรุ่นใหญ่ตัวจริง
Follow Line@: @happyseniorclub หรือ
Follow Facebook:
WebSite: