โรคเบาหวาน หรือจะเรียกว่า Diabetes Mellitus , DM ครับ เป็นโรคที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ปกติพอเรารับประทานอาหารเข้าไป ร่างกายเราก็จะทำการเปลี่ยนแปลงอาหารทำให้อาหารบางส่วนเปลี่ยนเป็นน้ำตาล แล้วร่างกายก็จะนำน้ำตาลกลับเข้าเซลล์หรือหน่วยเล็กๆของร่างกายโดยอาศัยฮอร์โมนชนิดหนึ่ง ฮอร์โมนนั้นคือ อินซูลิน (insulin) นั้นหมายความว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะไม่มีฮอร์โมนอินซูลินหรือ มีน้อยครับ
อาการของผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน
1. ปัสสาวะบ่อย
2. มีน้ำตาลออกมากับปัสสาวะ จึงทำให้บางคนเห็นมดขึ้นกางเกงตรงรอยปัสสาวะได้ครับ
โรคเบาหวานแบ่งเป็น 4 ชนิดตามสาเหตุของการเกิดโรค
1. โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (type 1 diabetes mellitus, T1DM) ก็เป็นเบาหวานที่เป็นแต่กำเนิดครับ พบมากในเด็ก
2. โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (type 2 diabetes mellitus, T2DM) พบบ่อยมากที่สุดเลยครับ มักมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนอินซูลินน้อย ฯลฯ
3. โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์ (gestational diabetes mellitus, GDM)
4. โรคเบาหวานที่มีสาเหตุจำเพาะ
ในการรักษาโรคเบาหวาน เริ่มแรกจะมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและอาจมีการให้ยาครับ หมอจะนัดเรามาเจาะเลือดตรวจระดับน้ำตาลในเลือด เราจะต้องอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง ผลที่ได้จะเป็นค่าระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหาร หรือค่า FPG ซึ่งจะบอกว่าการให้ยาไปในขั้นนี้สามารถคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้มาก-น้อยเพียงไร
ลืมบอกไป ในการรักษาโรคเบาหวาน จะมีหลายขั้น
ขั้นแรก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ขั้นที่ 2 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม+ให้ยากิน 1 ชนิด
ขั้นที่ 3 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม+ให้ยากิน 2 ชนิด
ขั้นที่ 4 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม+ให้ยากิน 3 ชนิด หรือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม+ให้ยากิน+ให้ยาฉีดก่อนนอน
ขั้นที่ 5 จะให้ทั้งยาฉีดและยากินเลยครับ
กลับมาที่ค่า FPG ที่เราได้มาจากการเจาะเลือด ถ้าค่านี้สูงแสดงว่าการให้ยาแบบนี้อาจไม่เพียงพอกับการลดระดับน้ำตาลในเลือด บางคนอาจโดนดุเรื่องการกินยาหรือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ทำให้บางคนกลัว จึงกินน้ำตาลน้อยๆก่อนจะถึงวันเจาะเลือดครับ ยกตัวอย่างเช่น พรุ่งนี้เรามีนัดเจาะเลือด วันนี้เราก็จะกินน้ำตาลน้อยๆ ไม่กินของหวาน แต่ก่อนวันนี้เรากินทั้งขนม กินแต่ของหวานๆ ตามใจตัวเอง ไม่สนใจการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลย พอไปเจาะเลือด ค่า FPG ก็ต่ำ แต่หารู้ไม่ว่าค่า FPG จะบอกค่าระดับน้ำตาลในเลือด ณ วันที่เจาะนะครับ มันยังมีค่า HbA1C ที่ได้มาจากการเจาะเลือดอีกครับ
HbA1C (ฮีโมโกลบินเอวันซี) คือ การตรวจวัดค่าเฉลี่ยของน้ำตาลในเลือดที่จับกับฮีโมโกลบินของเม็ดเลือดแดงในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา (หมอบางท่านอาจเรียกว่า “น้ำตาลสะสม”) เพราะเม็ดเลือดแดงทั่วไปจะมีอายุอยู่ประมาณ 100-120 วัน ดังนั้น ค่าน้ำตาลที่ตรวจได้จึงเป็นค่าน้ำตาลที่สะสมอยู่ในฮีโมโกลบินนานประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งเป็นค่าที่ใช้พิจารณาและประเมินผลการรักษาโดยรวมในช่วงที่ผ่านมาว่าผู้ป่วยเบาหวานสามารถควบคุมระดับน้ำตาลได้ดีหรือไม่ครับ
ดังนั้นแม้ว่าค่า FPG จะต่ำ แต่หมอจะดูค่า HbA1C เป็นหลักครับ ถ้า FPG ต่ำ HbA1C สูง ก็แปลว่าในช่วงประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมานี้เราคุมน้ำตาลได้ไม่ดีนั่นเอง
เอกสารอ้างอิง
https://www.dmthai.org/attachments/article/443/guideline-diabetes-care-2017.pdf
http://clinical.diabetesjournals.org/content/24/1/9
http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=270
#อาวุโสโซไซตี้
#เพื่อนที่รู้ใจของรุ่นใหญ่ตัวจริง